SILENT SCREAM หวีดเงียบ
“Light is Hope without Hope without Life” แสงคือความหวัง ปราศจากความหวังปราศจากชีวิต ความจริงคือสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ถูกบิดเบือนด้วยความรู้สึกของคน นี่แหละคือความจริงของ มนุษย์
ผู้เข้าชมรวม
569
ผู้เข้าชมเดือนนี้
18
ผู้เข้าชมรวม
มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
SILENT SCREAM
หวีดเงียบ
“REVENGE IS EASIER THAN FORGIVENESS’
แก้แค้นมันง่ายกว่าการให้อภัย
TRAILER
จอช ชายหนุ่มผู้ที่หัวใจได้แตกสลายเพราะภรรยาผู้เป็นที่รัก ซินเธีย ได้หายสาบสูญไปในคืนหนึ่งก่อนวันขึ้นปีใหม่เพียงวันเดียว โดยหลังจากนั้น 1 ปี กับ 1 เดือน ได้มีโปสการ์ด ส่งมาถึงเขา จากเธอเขียนข้อความสั้นๆว่า “ฉันจะรอคุณอยู่ที่นี่ จากซินเธีย” โดยที่อยู่ที่เธอส่งมานั้นมากจากโรงแรมแห่งหนึ่ง ชื่อของมันคือ HOTEL SALVATION (โฮเทล ซัลเวชั่น) จอช จึงได้ตัดสินไปที่แห่งนั้น พอเขาได้มาถึงเขากับถูกดึงไปยังอีกมิติหนึ่งซึ่งปกคลุมไปด้วยความมืดมิด กลิ่นไหม้ และ วิญญาณอาฆาต
ของเด็กสาวนิรนาม ที่สำคัญเขาต้องหาตัวคนรักในโรงแรมแห่งนี้ โดยได้พบกับ อเล็กซ์ ชายในชุดดำ เบ็น ภารโรงของโรงแรม อิกนิส หญิงชราตาบอดผู้ นาเดีย ครูสอนเปียโนซึ่งหน้าตาเหมือนคนรักของเขายิ่งนัก จอช จะสามารถออกจากโรงแรมแห่งนี่ได้หรือไม่เกิดอะไรขึ้นที่นี้กันแน่ ความมืดมิดได้แอบซ่อนสิ่งไดเอาไว้ ทำไมภรรยาของเขาถึงได้มาโรงแรมแห่งนี้…..
“Light is Hope without Hope without Life”
แสงคือความหวัง ปราศจากความหวังปราศจากชีวิต
ความจริงคือสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ถูกบิดเบือนด้วยความรู้สึกของคน
นี่แหละคือความจริงของ มนุษย์
....เพราะฉะนั้นเบื้องหลังของความจริงที่ได้เอื้อนเอ่ย อาจจะเป็นความลวง....
.....และการโกหกนั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกปิดความจริงอันมืดมิด....
....แต่ถ้าคุณเชื่อในเรื่องโกหกนั้นมากพอ มันอาจจะเป็นจริง....
.....เปรียบได้ดั่ง ความมืดมิดที่ซ่อนตัวอยู่ในแสงสว่าง....
......ความจริง ที่ถูกซ่อนอยู่ในความลวง.....
.....ศรัทธาที่ไม่ควรเชื่อ.....
....กรีดร้องโดยไร้เสียง....
Silent Scream
Prologue
ในอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ในวันนั้นเป็นช่วงฤดูฝนความชุ่มชื้นและความเย็นเกาะกุมไปทั่วห้อง ฮีทเตอร์ยังคงนิ่งเฉยราวกับเศษเหล็กที่ไร้ประโยชน์มันไม่ได้เสียแต่สองหนุ่มสาวไม่จำเป็นต้องใช้มันเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ในห้องนั้นมีเพียงไฟจากโคมไฟดวงเล็กบนหัวเตียงให้แสงสว่าง ในขณะที่สองหนุ่มสาวนอนขดตัวกันบนเตียงผ้าผืนเล็กห่อร่างกายที่เปลือยเปล่า ข้างๆเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มไม่เคยสนใจ เขาซื้อมาให้หญิงสาวที่นอนเปลือยกายอยู่เคียงข้าง บนโต๊ะเครื่องแป้ง มีเพียงเครื่องสำอางไม่กี่ชิ้นเพราะชายหนุ่มเคยบอกเธอว่า ไม่มีใบหน้าไหนงดงามเท่าใบหน้าของเธอยามตื่นนอน ไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งไม่จำเป็นต้องปกปิด ทุกอย่างบนใบหน้าเธอคือสิ่งที่เขารัก คือทุกสิ่งที่เขาต้องการรวมทั้งเรือนร่างและจิตวิญญาณของเธอ
เป็นใบหน้าด้านข้างเดียวกับที่เขาจ้องมองอยู่ตอนนี้ในขณะที่เธอนอนอิงแอบอยู่บนซอกแขนของเขา เธอเขียนไดอารี่หนังเล่มแดงที่ขนาดเท่าฝ่ามืออย่างบรรจง เขามองดูสิ่งที่เธอเขียนก่อนที่จะสะดุดเข้ากับคำๆหนึ่ง
ถ้าโลกนี้ปราศจากความมืด แสงสว่างจะมีค่าอะไร
ถ้าโลกนี้ปราศจากแสงสว่างและความหวังจะอยู่แห่งหนได
“ถ้าอย่างนั้นความหวังก็อยู่ท่ามกลางความมืดมิดนะสิ” ชายหนุ่มเอ่ย
หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงข้างกายหยุดชะงักมือที่จับปากกาไปทันทีเมื่อเขาเอ่ยทัก ดวงตายาวเรียวของเธอหยุดชะงักลง ก่อนที่จะหันมามองชายหนุ่มไม่ใช่ด้วยความโกรธเคืองเนื่องจากถูกขัดจังหวะจากการเขียนสมุดไดอารี่สีแดงเล่มนั้น แต่เธอจ้องมองมาด้วยความสงสัยก่อนที่จะหยิบกุญแจสีทองจากใต้โคมไฟที่ถูกตั้งอยู่บนโต๊ะตัวเล็กที่มีลิ้นชักฝังอยู่ ตรงหัวของกุญแจเป็นรูปหัวใจและมีอัญมณีสีแดงอยู่ตรงกลาง จะว่าไปไดอารี่ของเธอ เขาไม่เคยได้อ่านมันจริงๆจังๆเลยถึงแม้นั่นจะเป็นของสิ่งเดียวที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่ทั้งสองได้พบกัน ชายหนุ่มยังจำได้ดีเหมือนมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี่ วันแรกที่เราได้พบกันวันแรกที่เขาตื่นขึ้นมาและพบเธอยืนอยู่หน้าประตู หญิงสาวแปลกหน้าที่อ้างตัวว่าเธอคือ “คนรัก” ของเขา มันฟังดูเหลวไหลและยากที่จะเชื่อ แต่ใครเล่าจะไปรู้ว่ามันจะเป็นจริงในวันนี่
เธอคือคนรักของเขา และจะเป็นคนเดียวที่เขารักไปชั่วชีวิต
“ฉันไม่เคยคิดในแง่นั้นมาก่อนเลย”
เธอเอ่ยด้วยเสียงอันหวานซึ้ง มันทำให้ชายหนุ่มซาบซ่านทุกครั้งที่ได้ยินมัน เธอค่อยๆ เก็บหนังสือเล่มนั้นเข้าไปในลิ้นชักข้างเตียงก่อนที่จะซุกตัวลงแนบอกของชายหนุ่ม เขาโอบกอดเธอตอบเพื่อให้ร่างนั้นแนบชิดติดกับตัวจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเธอ มันค่อยๆสอดประสานและถี่เร็วไปพร้อมกับใจของเขา ดวงตาอันหวานเยิ้มคู่นั้นยังคงจ้องมองเข้ามาในดวงตาเหมือนกับว่าเธอต้องการถามต่อว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น
“ก็ คุณเขียนเองไม่ใช่หรอว่าความหวังคือแสงสว่าง และแสงสว่างจะมีค่าก็ต่อเมื่ออยู่ในความมืดมิด ถ้าอย่างนั้นความหวังก็ต้องมีค่าก็ต่อเมื่ออยู่ในความมืดด้วยสิก็มันอยู่ในแสงสว่างนี่นา”
ดวงตาคู่นั้นโค้งลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิดก่อนที่จะหลับลงอย่างแช่มช้า เธอผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ จนเขารู้สึกได้ถึงหน้าอกอันเปลือยเปล่าของเธอค่อยๆห่างออกจากหน้าท้อง ก่อนที่จะกลับมาแนบชิดดังเดิมอย่างแช่มช้า พอๆกับริมฝีปากที่ค่อยๆยิ้มอย่างพอใจ เธอค่อยๆใช้แขนทั้งสองโอบรอบคอชายหนุ่มก่อนที่จะใช้ริมฝีปากเล็กๆคู่นั้นจุมพิตลงบนริมฝีปากของเขา ซึ่งตอบสนองเธอโดยพลันโดยการกดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างรุนแรงด้วยอารมณ์ตัณหาที่ครุกรุ่น เขาไม่อาจห้ามใจไว้ได้อีกแล้ว ถึงแม้จะพึ่งปลดปล่อยอารมณ์อันร้อนระอุนี่ไปก่อนหน้านี่ แต่มันไม่เคยพอและจะไม่มีวันพอเพราะทุกครั้งที่ได้โอบกอดร่างกายอันเปลือยเปล่าของเธอ มันทำให้ร่างกายเขาอบอุ่น มันทำให้หัวใจเต้นแรง มันทำให้รู้สึกว่า ตัวเองกำลังมีชีวิต
......โดยในวันรุ่งขึ้นเขาไม่มีวันรู้เลยว่า จะต้องตายทั้งเป็น....
……………………………………….
นิยายเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจาก SILENT HILL เกมที่ทำให้ผมรู้ว่าความกลัวมันน่าสนุกแค่ไหน
ผลงานอื่นๆ ของ Mian-Ti ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Mian-Ti
ความคิดเห็น